วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เคล็ดลับที่โรงเรียนไม่สอน..ตอน "วิธีการทำเงินออมให้งอกเงย"

  หลังจากเว้นช่วงในการเขียนบล็อกเป็นเวลานานมากๆ ..ต้องขออภัยอย่างสูงไว้ ณ ที่นี่นะค่ะ (-/|\-)*
ถึงตอนนี้จะมีน้อยคนที่เคยเข้ามาอ่าน แต่ปาร์ตี้เชื่อว่าสักวันบล็อกนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่นักลงทุนมือใหม่ หรือคงพอจะเป็นแนวทางในการวางแผนการลงทุนของท่านที่อ่านได้ในอนาคต ^^*


  เหตุผลที่ไม่เขียนต่อเนื่อง!! (ข้อแก้ตัว) .."ปาร์ตี้กำลังฝึกงานที่ Finansia Syrus at GMM grammy place ค่ะ"




  แล้วในขณะที่ฝึกงานนี้ ปาร์ตี้จะพยายามเขียนบล็อกในเรื่องเคล็ดลับที่โรงเรียนไม่สอน เพื่อนำมาแบ่งปันความรู้ด้านการลงทุนแก่ทุกท่านที่เข้ามา อาจจะยังเขียนไม่เก่ง และยังมีความรู้ไม่มากนัก แต่ปาร์ตี้สัญญาว่าจะพยายามศึกษาเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด ^^*  มาเริ่มเข้าเนื้อหากันดีกว่า..
 


เคล็ดลับที่โรงเรียนไม่สอน..ตอน "วิธีการทำเงินออมให้งอกเงย"
  เอาแบบสรุปง่ายๆเลยแล้วกัน จากบทความครั้งก่อนที่เราจะกล่าวถึงโรคทรัพย์จาง พร้อมวิธีป้องกันและรักษา วันนี้เลยขอนำเสนอวิธีการออมเงินที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝังดินหรือเก็บไว้ในบัญชีธนาคาร แต่มีเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ขอออกตัวไว้ก่อนว่า "ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้เข้าใจ"
  ทุกท่านคงสงสัยว่าทำไมปาร์ตี้ถึงพูดแบบนั้น เหตุผลก็คือ วิธีการออมเงินให้งอกเงยในความหมายฉบับปาร์ตี้ คือ "การวางแผนการลงทุน"  ในการจะทำสิ่งใดให้ประสบผลสำเร็จนั้น จะต้องมาจากการศึกษาและการวางแผนที่ดี การออมก็เช่นกัน เราจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีการจัดการอย่างเป็นระบบ


  คนเรามีความปราถนาหรือทางเลือกหลักเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนอยู่สามประการคือ
1.  เพื่อความมั่นคงปลอดภัย
2.  เพื่อความสะดวกสบาย    
3.  เพื่อความร่ำรวย              
โดยความแตกต่างของชีวิตของแต่ละคนขึ้นอยู่ที่ว่าเขาลำดับความสำคัญของความปราถนาทั้งสามอย่างไร ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจในเรื่องการหารายได้และการลงทุนตามลำดับข้างต้น นั้นหมายความว่า สิ่งสุดท้ายที่คนส่วนใหญ่เลือกคือการเป็นคนรวย o_O"

"คนส่วนใหญ่ฝันที่จะรวย แต่พวกเขามิได้ให้ความสำคัญแก่ความรวยเป็นอันดับแรก" อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ปาร์ตี้แปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะการที่เราต้องการออมเงินให้งอกเงย ก็เพื่อให้มีเงินเหลือใช้ การที่อยากมีเงินเหลือใช้ มันก็มีความหมายโดยนัยว่าเราต้องการที่จะรวย ..ถูกรึป่าวค่ะ??
งั้นเราก็มาเริ่มปฎิบัติการทำเงินออมให้งอกเงยก็เลยยยยยยย

  ขั้นแรก: เราต้องเริ่มจากการเปลี่ยนทัศนคติของตนเอง มาเป็นการคิดอย่างนักลงทุน ซึ่งพวกเขาจะจัดลำดับความรวยให้มีความสำคัญเป็นอันดับแรก แม้เส้นทางเดินไปสู่ความร่ำรวยจากการลงทุนนั้นจะลดทอนความสะดวกสบายของเราหรือทำให้เรารู้สึกขาดความมั่นคง เราก็จะต้องให้สติในการก้าวเดินไปสู่จุดมุ่งหมาย ในเรื่องของทัศนคติและสติ ปาร์ตี้จะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆๆ เมื่อเรามีทัศนคติในด้านการลงทุนที่ดี ผลย่อมออกมาดีกว่าการมีทัศนคติในด้านลบเสมอ และเมื่อใดที่เราทำอะไร ขอให้จงทำอย่างมีสติ อย่ากระทำด้วยอารมณ์หรือกระแสนิยม

  ขั้นที่สอง: ค้นหาตนเอง ค้นหาการลงทุนที่เหมาะสมแก่ตัวท่านเองให้ได้ โดยการเริ่มต้นด้วยการหาที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน ศึกษาคุณสมบัติของพวกเขาและสัมภาษณ์หลายๆครั้ง สำหรับคนที่ไม่เคยมีแผนการเงินมาและการลงทุนก่อน ประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยเปิดโลกทัศน์ของท่านได้มากทีเดียว

  ขั้นที่สาม: มั่นศึกษาหาความรู้ในด้านการเงินการลงทุน ฝึกฝนการอ่านบัญชี ข้อนี้สำคัญมากนะค่ะ ก่อนที่เราจะเริ่มทำการลงทุนนั้น เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการศึกษา ทำความเข้าใจ ในสิ่งที่เราจะลงทุน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการเปิดกว้างของคลังความรู้อย่างมาก เราสามารถศึกษาได้จากการโลกไซเบอร์ การอ่านหนังสือ หรือแม้กระทั้งการอบรมตามสถานที่ต่างๆ อาจมีต้นทุนในการเรียนรู้บ้าง แต่ถ้าผลลัพธ์มันออกมาคุ้มค่า ปาร์ตี้ว่าเราก็น่าจะสละเวลาทำการศึกษากันนะค่ะ แล้วอย่าลืมคำแนะนำจากที่ปรึกษาการเงินและการลงทุนที่เหมาะสมแก่การลงทุนของท่าน ((ปาร์ตี้ไม่ได้แนะนำให้เชื่อทั้งหมดนะค่ะ ^^*

  ขั้นสุดท้าย: เริ่มก้าวสู่สนามการลงทุนเลยยยยยย
แต่การก้าวนี้ ต้องเริ่มต้นลงทุนจากเงินเย็น นั้นหมายความว่าเป็นเงินที่เราสามารถเสียไปได้ โดยที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อน เรียกว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของการฝึกประสบการณ์ ซึ่งในช่วงนี้จะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นการฝึกฝนหรือเป็นการเริ่มต้น ทำให้อาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย แต่อยากให้นำความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นมาเป็นบทเรียน เพื่อนำไปแก้ไข และไม่กลับไปผิดพลาดซ้ำอีก

  ส่วนตัวปาร์ตี้เองจะขอเริ่มการลงทุนที่แตกต่างจากครอบครัวคือ การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นการลงทุนในสิ่งที่ปาร์ตี้รัก คือการลงทุนในธุรกิจหรือการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังไงก็คงไม่ละทิ้งความรู้ที่ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ป๊ะป๊าเฝ้าสอนตั้งแต่เด็กแน่นอน  เพียงแต่ตอนนี้จะขอศึกษาจะลงมือปฎิบัติอย่างจริงจังในด้านที่ตนเองรัก ((ไม่รู้ว่าจะต้องล้มสักกี่ครั้งกว่าจะถึงจุดหมาย))
  ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงฝึกงาน ฝึกงานเสร็จก็เรียนจบในระดับปริญญาตรีแล้ว และคงถึงเวลาเข้าสู่การทำงาน การยืนด้วยตนเอง คิดแล้วมันก็เร็วๆมากๆเลยนะ "เวลา" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆ


"มกราคม 2555 สอบ  Single License ขอกำลังใจด้วยน๊ะค๊ะ"

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น